5 เคล็ดลับซักผ้าอย่างไรให้มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน

posted in: Blog | 0

การซักผ้าให้มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน ไม่ใช่เพียงแค่หยิบเสื้อผ้าเข้าเครื่องซักผ้า เติมผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม แล้วกดปั่น ตาก เป็นอันจบ แต่ก็ยังรู้สึกว่าผ้าที่ซักยังไม่หอมถูกใจติดจมูกเหมือนไปซักที่ร้านซักผ้า ดังนั้นวันนี้เราเลยนำเคล็ดลับดี ๆ ที่จะทำให้คุณ ซักผ้าให้หอม ซักผ้าให้มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน และยังช่วยถนอมเนื้อผ้าอีกด้วย ซึ่งวิธีที่เรานำมาฝากทำตามกันได้ง่าย ๆ รับประกันความหอมแน่นอนค่ะ

เคล็ดลับ ซักผ้าให้หอม มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน

1. เช็คความสะอาดของเครื่องซักผ้า

ก่อนนำผ้าลงซักทุกครั้งให้เราเช็คความสะอาดของเครื่องซักผ้าของเราในทุก ๆ ครั้ง เพราะบางครั้งเครื่องซักผ้าของเราอาจจะมีเศษขยะที่เกิดจากการซักผ้าครั้งก่อน ๆ เช่น เส้นใยผ้าที่มันหยุดออกมา ฝุ่น และสิ่งสกปรกที่เครื่องซักผ้าของเรามันกรองออกจากเสื้อผ้าของเรา และอาจจะมีแบคทีเรียหรือคราบสกปรกที่อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เสื้อผ้าที่คุณนำเข้าไปซักมีกลิ่นที่เหม็นอับได้ ดังนั้นจึงควรตรวจเช็คเครื่องซักผ้าเป็นประจำ

2. แยกประเภทของผ้า

นำผ้าที่เราจะซักมาแยกสีก่อน ต่อมาแยกประเภท เช่น เสื้อ กางเกง ผ้าเช็ดตัว ชุดชั้นใน ถุงเท้า แยกให้ละเอียดชัดเจน ซึ่งเราจะซักทีละประเภทเพื่อเป็นการถนอมผ้าไปในตัว ทั้งนี้การแยกเสื้อผ้ายังแยกเสื้อผ้าที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือกลิ่นอับออกจากกองเสื้อผ้าที่จะซักปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นอับ กลิ่นเหงื่อหรือสิ่งสกปรกไปติดเสื้อผ้าตัวอื่น ๆ หรือถ้าอยากซักผ้าทุกชิ้นรวมกัน ก็ควรนำเสื้อผ้าที่เปื้อนหรือมีกลิ่นไปแช่น้ำทิ้งไว้ก่อน 30 นาที และขยี้เบา ๆ เพื่อขจัดคราบสกปรกที่เกาะติดอยู่บนตัวเสื้อ จากนั้นนำมาเข้าเครื่องซักรวมกับเสื้อผ้าตัวอื่นได้

3. เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ให้ความหอม

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้า และผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นที่หอม แต่ทั้งนี้การใช้งานของผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เวลาใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่ควรใส่เสื้อผ้าจนแน่นเกินไป เพราะจะทำให้น้ำยาปรับผ้านุ่มกระจายตัวไม่ทั่วถึง และทำให้เสื้อผ้าที่อยู่ด้านล่างไม่โดนน้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่หากแช่เสื้อผ้าไว้นานเกินไป ผ้าจะเกิดความชื้น และเชื้อราได้ และควรหลีกเลี่ยงการตากแดดแรง ๆ เพราะจะทำให้กลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มหรือผงซักฟอกจางลง แนะนำว่าควรใช้เครื่องอบผ้าแทนเพื่อคงสภาพของกลิ่นเอาไว้ ทำให้เสื้อผ้าหอมติดทนนานตลอดวัน

4. เทคนิคในการซักผ้า

การนำผ้าลงไปซัก ไม่ควรใส่ผ้าเยอะจนแน่นถังซักมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ผงซักฟอกเข้าไปทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง และอีกอย่างจะทำให้ผ้าของเราไม่สะอาดได้ อีกทั้งยังทำให้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ติดอยู่กับผ้าไม่หอมเท่าที่ควร หลังจากซักผ้าเสร็จแล้ว ไม่ควรทิ้งผ้าเอาไว้ในถังนาน ๆ เพราะผ้าจะชื้น ทำให้เกิดการหมักหมมก่อให้เกิดเชื้อราได้ ต่อมาในการตากผ้า ควรตากในที่ที่มีลมโกรกตลอดเวลา และไม่ควรตากผ้าในที่ที่มีแดดจ้า ไม่ควรให้ผ้าโดนแดดมาก เพราะแดดจะทำให้กลิ่นหอมของผ้านั้นเจือจาง และยังทำให้ผ้าของเรานั้นซีดได้

5. สเปรย์หรือน้ำยาฉีดผ้า

การสเปรย์หรือน้ำยาฉีดผ้าเป็นวิธีซักผ้าให้หอมอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดี โดยเริ่มใช้หลังจากตากผ้าจนแห้ง ซึ่งก่อนจะเก็บเข้าตู้เสื้อผ้า ถ้าอยากให้เสื้อผ้าของมีกลิ่นหอม ให้ใช้สเปรย์ฉีดลงบนเสื้อผ้าหรือจะฉีดสเปรย์น้ำหอมลงบนเสื้อผ้าในขณะที่รีดผ้าอยู่ก็ได้เช่นกัน เพื่อให้กลิ่นหอมติดทนอยู่บนเสื้อผ้าเป็นเวลานาน ถ้ายังไม่มั่นใจว่าเวลาพับเสื้อผ้าหรือแขวนเสื้อผ้าในตู้กลิ่นจะคงยังติดทนอยู่หรือไม่ สามารถหาถุงหอมมาแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า เพื่อให้กลิ่นติดทนเป็นเวลานานได้

เคล็ดลับซักผ้าอย่างไรให้มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวันที่เรานำมาฝาก เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด ซึ่งการดูแลเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้สะอาด ให้หอม สามารถทำได้เพียงแค่ 5 สเต็ปง่าย ๆ ที่ช่วยให้เสื้อผ้าปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่จะมีกลิ่นหอมติดเสื้อผ้าตลอดทังวันแทนค่ะ